Skip to content

สถานปฏิบัติธรรมอัน “สัปปายะ”
โดยพระพงษ์พันธ์ ฉันทกโร

นักปฏิบัติทั้งหลายคงเคยได้ยินคำว่า “สัปปายะ” มาพอสมควร การปฏิบัติเพื่อที่จะให้ได้ผลดีนำไปสู่การพ้นทุกข์นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบอันเป็นสัปปายะ

คำว่า ‘สัปปายะ’ ตามพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

มีความหมายว่า สิ่งที่เหมาะกัน สิ่งที่เกื้อกูล ช่วยสนับสนุนในการบำเพ็ญภาวนาให้ได้ผลดี ช่วยให้สมาธิตั้งมั่น ไม่เสื่อมถอย มีทัังหมด ๗ ประการ ได้แก่

       ๑. อาวาสสัปปายะ หรือที่อยู่ซึ่งเหมาะสม มีความสะอาด สงบเงียบ ไม่พลุกพล่านจอแจ

       ๒. โคจรสัปปายะ คือ ที่ที่ไปมาสะดวก สามารถหาอาหาร เที่ยวบิณฑบาตได้โดยไม่ยากลำบาก เช่น มีบ้านเรือนชุมชนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป

       ๓. ภัสสสัปปายะ ได้แก่ การพูดคุยที่เหมาะ เช่น พูดคุยแต่น้อย สนทนาแต่เรื่องดีๆ เรื่องที่เกื้อหนุนให้เกิดความมักน้อย ละความฟุ้งเฟ้อ ยินดีในสันโดษ เป็นต้น

       ๔. ปุคคลสัปปายะ หมายถึง บุคคลที่ถูกกันเหมาะกัน ซึ่งก็คือกัลยาณมิตรที่เป็นผู้รู้ทรงคุณธรรม ทรงภูมิปัญญาให้คำแนะนำที่ถูกที่ควร

       ๕. โภชนสัปปายะ ได้แก่ อาหารที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ ดีต่อร่างกาย เกื้อกูลต่อสุขภาพ

       ๖. อุตุสัปปายะ กล่าวคือ ดินฟ้าอากาศธรรมชาติแวดล้อมที่เหมาะ เช่น ไม่หนาวหรือร้อนเกินไป

       ๗. อิริยาปถสัปปายะ หมายถึง พื้นที่ที่เหมาะกับอิริยาบถ ไม่ว่าจะยืนเดิน นั่งนอน อันเป็นอิริยาบถที่เหมาะกับผู้ปฏิบัติ เช่น บางคนถูกกับจงกรม บางคนถูกกับนั่ง ตลอดจนมีการเคลื่อนไหวที่พอดี

ใน ๗ ข้อนี้ ข้อที่เป็นหัวใจสำคัญที่สุด คือ ปุคคลสัปปายะ คือบุคคลที่เป็น “กัลยาณมิตร”

ครั้งหนึ่งพระพุทธองค์เคยตรัสถามพระอานนท์ว่า “กัลยาณมิตร” นั้นสำคัญไฉน พระอานนท์ทูลตอบว่า ‘การมีกัลยาณมิตรนั้นเป็นกึ่งหนึ่งแห่งพรหมจรรย์ทีเดียวพระเจ้าข้า’

ทว่าพระสัพพัญญูทรงแก้ว่า ‘ดูก่อน อานนท์ เธออย่าได้กล่าวอย่างนั้น ความเป็นกัลยาณมิตรนี้เป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์…’

เหตุใดพระองค์จึงตรัสเช่นนั้น นั่นก็เพราะกัลยาณมิตรคือผู้ชี้หนทางสว่าง นำเราไปบนเส้นทางแห่งอริยมรรคอันนำไปสู่การหลุดพ้นจากอวิชชาทั้งมวล กัลยาณมิตรจึงไม่ได้แปลว่ามิตรสหายตามที่เข้าใจกันเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงครูบาอาจารย์ที่ถึงพร้อมด้วยการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สามารถอบรมจิตของนักปฏิบัติให้เดินไปตามแนวทางสู่ความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นทางโลกหรือทางธรรม

คุณธรรมของกัลยาณมิตรเรียกว่า กัลยาณมิตรธรรม มี ๗ ประการ ได้แก่ ๑. ปิโย เป็นที่รัก ๒. ครุ น่าเคารพ ๓. ภาวนีโย น่าเจริญใจในคุณธรรม ๔. วัตตา รู้จักพูดให้ได้ผล ๕. วจนักขโม อดทนต่อถ้อยคำ ๖. คัมภีรัญจะ กถัง กัตตา แถลงเรื่องลึกล้ำได้ ๗. โน จัฏฐาเน นิโยชเย  ไม่ชักนำสู่ทางเสื่อม

บุคคลใดเป็นกัลยาณมิตรของผู้อื่น หรือมีกัลยาณมิตรคอยแนะนำได้ชื่อว่าเป็นผู้มีบุญสั่งสมมาดี นี้เอง พระผู้มีพระภาคจึงทรงตรัสสรรเสริญความเป็นผู้มีกัลยาณมิตรไว้ดังนี้ว่า “ความมีกัลยาณมิตรย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ยิ่งใหญ่ เพื่อความดำรงมั่น ไม่เสื่อมสูญ ไม่อันตรธานแห่งสัทธรรม”